นายจิม กูดไนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง SAS ผู้นำด้านระบบวิเคราะห์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อพัฒนาโซลูชั่นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ โดยเป็นโซลูชั่นการวิเคราะห์ขั้นสูงเพิ่มเติม มุ่งเป้าไปที่ความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นในภาคการธนาคาร ภาครัฐ การประกันภัย การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก การผลิต พลังงาน รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนบริษัทที่ใช้ เอไอ การเรียนรู้ของเครื่อง และระบบวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อรับมือกับการฉ้อโกง จัดการความเสี่ยง ให้บริการลูกค้าและประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

“ธุรกิจกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากรูปแบบตั้งแต่ภัยคุกคามเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและห่วงโซ่อุปทานที่ตึงเครียด ไปจนถึงการขาดแคลนแรงงานและการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ แต่ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากระบบวิเคราะห์ ด้านอุตสาหกรรม องค์กรที่มีความยืดหยุ่นสามารถค้นพบโอกาสจากความท้าทายที่กล่าวมานี้ได้ และนักวิทยาศาสตร์ ข้อมูลและนักสถิติก็สามารถใช้โซลูชั่นอุตสาหกรรมของ SAS ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเอไอ โดยนักวิเคราะห์ธุรกิจ สามารถตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงได้ดีขึ้น นักวางผังเมืองสามารถ ยกระดับสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน ส่วนบุคลากรทางการแพทย์สามารถพัฒนาการดูแลผู้ป่วย และพนักงานระดับแนวหน้าสามารถ เพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตได้”